Untitled

 avatar
unknown
plain_text
22 days ago
35 kB
3
Indexable
สรุปไทม์ไลน์ #แสตมป์อภิวัชร์ ราโชมอน
—————
◾️ ความรักของแสตมป์กับนิว
◾️ ข่าวลือเกี่ยวกับนิว
◾️ แฟนคลับหรือซาแซง ?
◾️ จากแฟนคลับกลายเป็น Someone
◾️ อยากหย่าเมียไปเริ่มต้นใหม่
◾️ สไตลิสต์ (บังหน้า)
◾️ คลิปไวรัลเป็นเหตุ
◾️ การปะทะกันของ 2 ฝ่าย
◾️ พึ่งศาล
◾️ ขู่ฟ้อง ม.112
◾️ ยังโดนคุกคาม
◾️ เรื่องเล่า (ที่ไม่ครบ) บนเวทีคอนเสิร์ต
◾️ คำขอโทษจากแสตมป์
—————
🔴 ความรักของแสตมป์กับนิว
:
1- “แสตมป์ อภิวัชร์” ออกผลงานเพลงอัลบั้มเดี่ยวครั้งแรกเมื่อปี 2551 แต่มาโด่งดังในวงกว้างหลังได้เป็นโค้ช The Voice ในปี 2555 ด้วยบุคลิกที่อบอุ่น รอยยิ้มตาสระอิ และอารมณ์ขัน ทำให้เขากลายเป็นหนุ่มในฝันของสาว ๆ หลายคน
2- แสตมป์ไม่ได้ปิดบังว่าเขามีแฟนแล้วคือ “นิว จีริสุดา” ทั้งคู่รู้จักกันตอนเป็นนิสิตจุฬาฯ คบกันตั้งแต่ปี 2549 และแต่งงานกันในปี 2558 นิวเป็นหลังบ้านที่มีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของแสตมป์บนเส้นทางดนตรี ในปี 2560 ทั้งคู่เปิดค่ายเพลง 123 Records โดยนิวนั่งแท่นผู้บริหาร
—————
🔴 ข่าวลือเกี่ยวกับนิว
:
3- ช่วงที่แสตมป์ดังในวงกว้างก็เริ่มมีข่าวลือว่าแฟนของเขาเป็นคนขี้หึงมาก โมโหร้าย และอารมณ์ร้อน มีการเล่าเรื่องนิวเป็นตุเป็นตะ เช่น
◾️ ขอถ่ายรูปกับแสตมป์แล้วโดนนิวจ้องแบบปล่อยรังสีอำมหิตใส่
◾️ ที่คนชมว่าแสตมป์เป็นสุภาพบุรุษ ไม่แตะเนื้อต้องตัวแฟนคลับหรือลูกทีมผู้หญิงนั้น ที่จริงเป็นเพราะเขากลัวนิว
◾️ แสตมป์ถอนตัวจากการเป็นโค้ช The Voice เพราะนิวหึงลูกทีมสาว ๆ
◾️ นิวกระทืบของที่แฟนคลับให้แสตมป์แล้วร้องกรี๊ด ๆ *
* ขออนุญาตแก้ไขเพิ่มเติมหัวข้อนี้นะคะ เนื่องจากแอดได้รับการยืนยันจากแฟนคลับว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงเมื่อมกราคม 2554 ของชิ้นนั้นคือผ้าพันคอที่แฟนคลับถักให้แสตมป์ หลังเกิดเหตุแฟนคลับได้แจ้งให้ทีมงานทราบ แสตมป์ได้โพสต์ขอโทษเมื่อ 11 มกราคม 2554 และสวมผ้าพันคอผืนนี้ขึ้นเล่นคอนเสิร์ตที่เชียงใหม่เพื่อเป็นการขอโทษแฟนคลับท่านนั้นค่ะ
4- แม้จะไม่รู้แน่ชัดว่าใครเป็นต้นตอข่าวลือ และแม้จะมีหลายคนช่วยยืนยันว่าตัวจริงนิวไนซ์มาก แต่ข่าวลือก็แพร่สะพัดไปแล้วทั้งในและนอกวงการเพลง จนแฟนคลับหลายคนไม่ชอบนิว
—————
🔴 แฟนคลับหรือซาแซง ?
:
5- หนึ่งในแฟนคลับของแสตมป์คือ “แจม” สาวสวยโปรไฟล์ดี พ่อเป็นนายพล ปัจจุบันเธอเป็นอินฟลูเอนเซอร์ด้วย แจมเริ่มเป็นแฟนคลับแสตมป์ตั้งแต่ปี 2553 และตามไปดูคอนเสิร์ตของเขาตามที่ต่าง ๆ
6- ครั้งหนึ่งแสตมป์เคยมองว่าแจมเป็นซาแซง* เนื่องจากเธอตามไปดูคอนเสิร์ตของเขาหลาย ๆ ที่ ทำให้บางครั้งเจอกันที่สนามบิน ปั๊มน้ำมัน หรือหน้าโรงแรม ลักษณะเหมือนตามมาดักเจอ แล้วเขายังรู้สึกว่าแจมพยายามตีสนิทกับคนในวงการเพลงเพื่อให้เข้าถึงตัวเขา
*ซาแซง มาจากภาษาเกาหลี หมายถึงแฟนคลับที่ติดตามศิลปินเหมือนสตอล์กเกอร์ แอบถ่าย ล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัว และสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้ศิลปินจดจำตนได้
7- ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 แสตมป์บินไปเล่นคอนเสิร์ตที่ต่างจังหวัด แจมก็บินตามไปดู ทั้งคู่เจอกันบนเครื่องโดยแจมได้ที่นั่งใกล้กับแสตมป์ ต่อมามีคนบอกแสตมป์ว่าแจมมีเพื่อนเป็นกราวนด์ เธอจึงรู้ข้อมูลเที่ยวบินของเขาและล็อกที่นั่งได้ ทำให้แสตมป์รู้สึกไม่ปลอดภัยจนถึงกับเลิกรับงานที่ต้องขึ้นเครื่อง
8- แต่ในมุมของแจม เธอยืนยันว่าไม่มีใครเช็กข้อมูลหรือล็อกที่นั่งให้ทั้งสิ้น เธอจองตั๋วเองผ่านแอปฯ ในมือถือ การได้นั่งใกล้แสตมป์เป็นเพียงความบังเอิญเท่านั้น
9- เป็นที่รับรู้กันในครอบครัวและเพื่อนฝูงว่าแจมเป็นติ่งแสตมป์ ในปี 2562 แจมแต่งงาน เจ้าบ่าวของเธอสวมหน้ากากแสตมป์มาเซอร์ไพรส์เจ้าสาว แต่ต่อมาแจมกับสามีคนนี้ก็เลิกรากันไป
—————
🔴 จากแฟนคลับกลายเป็น Someone
:
10- จากคนที่ถูกศิลปินมองว่าเป็นซาแซง ในปี 2563 แจมกลายเป็นแฟนคลับที่แสตมป์ให้การยอมรับ ไว้ใจ และสนิทสนม ทั้งคู่เริ่มพูดคุยกันผ่าน DM ไอจี
11- แต่ในขณะเดียวกัน ในปี 2564 แจมก็มีความรักครั้งใหม่กับ “แก๊ป” ซาวนด์เอนจิเนียร์ของวง MEAN (ภายหลังย้ายมาอยู่กับ Tilly Birds)
12- ช่วงก่อนโควิด แสตมป์สนิทสนมกับ ”ป้อง” (เจ้าของเพจ “โตแล้วจะไปญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ได้”) เนื่องจากทั้งคู่ชอบเที่ยวญี่ปุ่นเหมือนกัน ต่อมาในเดือนธันวาคม 2564 แสตมป์ได้แนะนำให้ป้องรู้จักกับแจม โดยแสตมป์บอกว่าแจมคือ Someone ของเขา และเรียกเธอด้วยความเอ็นดูว่า “ผัก”
—————
🔴 อยากหย่าเมียไปเริ่มต้นใหม่
:
13- แสตมป์บอกป้องว่าเขาไม่โอเคกับชีวิตแต่งงานแล้ว เพราะมีปัญหาหลายอย่าง เช่น นิวเก็บเงินหมดไม่ให้เขาใช้, เขาอยากสร้างบ้านใหม่ให้แม่แต่นิวไม่ให้เงิน, นิวไม่ให้เขากลับไปเยี่ยมแม่ ฯลฯ เขาอยากหย่ากับนิวแล้วไปเริ่มต้นใหม่ แต่ยังหย่าไม่ได้เพราะติดอยู่หลายอย่าง ป้องฟังแล้วก็เห็นใจเพื่อนและรู้สึกไม่ชอบนิวขึ้นมา
14- หลังจากนั้นเวลาแสตมป์กับแจมไปไหนก็มักจะชวนป้องไปด้วย เหมือนใช้เขาเป็นไม้กันหมาไม่ให้นิวและคนอื่นสงสัย เวลาแสตมป์ติดต่อแจมไม่ได้เพราะนิวคุม เขาก็จะฝากข้อความให้ป้องช่วยไปบอกแจม
—————
🔴 สไตลิสต์ (บังหน้า)
:
15- ในเดือนมิถุนายน 2565 แสตมป์รับแจมเข้ามาทำงานด้วยในฐานะสไตลิสต์ แต่การเข้ามาทำงานของแจมในครั้งนี้มีความราโชมอนอยู่ คือถ้าถามแสตมป์กับถามแก๊ปก็จะได้ข้อมูลเหมือนหนังคนละม้วน
◾️ แสตมป์: เขาบอกว่าสไตลิสต์เป็นเพียงตำแหน่งบังหน้าเท่านั้น เพื่อให้เขากับแจมได้ใกล้ชิดกันในเชิงชู้สาวโดยที่นิว แก๊ป และคนอื่น ๆ ไม่สงสัย แจมไม่ใช่สไตลิสต์ของเขาจริง ๆ
◾️ แก๊ป: แก๊ปบอกว่าแจมทำงานเป็นสไตลิสต์ให้กับแสตมป์จริง ๆ โดยแสตมป์เป็นคนชักชวนด้วยตัวเอง
16- แก๊ปเล่าว่าช่วงนี้แสตมป์เอาเรื่องนิวมาเล่าให้แจมฟังเยอะมาก ๆ (ทำนองเดียวกับที่เล่าให้ป้องฟัง) ตอนนั้นแก๊ปรู้สึกเห็นใจแสตมป์ และคิดว่าเขาคงโดนอะไรมาหนักมาก ครั้งหนึ่งแก๊ปเห็นในแชต แสตมป์พูดถึงภรรยาของตัวเองในทำนองว่า ‘เป็นบ้า เป็นโรคประสาท’
17- ต่อมาแก๊ปสังเกตเห็นว่าแสตมป์เริ่มเข้าใกล้แจมมากขึ้นจนเกินจำเป็น บางครั้งส่งข้อความแปลก ๆ มา หรือโทรหาตอนดึก ทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่องแสตมป์หลายครั้ง แต่ในที่สุดแก๊ปก็เลือกที่จะเชื่อมั่นในตัวแจม เขาเชื่อว่าแสตมป์มาตามตื๊อเธอเอง และเธอพยายามรักษาระยะห่างอย่างเต็มที่แล้ว
—————
🔴 คลิปไวรัลเป็นเหตุ
:
18- ปลายเดือนสิงหาคม 2565 แฟนคลับคนหนึ่งเห็นแสตมป์มากับสาวสวย จึงเล่นมุก “ขอแสตมป์ถ่ายรูป” คือไม่ใช่ถ่ายรูปกับแสตมป์ แต่ขอให้แสตมป์ถ่ายรูปให้เขากับสาวสวยหน่อย ซึ่งสาวสวยคนนั้นก็คือแจมนั่นเอง
19- คลิปนี้ไวรัลไปทั่วประเทศ หลายคนเข้าใจว่าคนในคลิปคือภรรยาของแสตมป์ ในเดือนธันวาคม 2565 นิวมาเห็นคลิปนี้เข้า และเห็นหลายคนคอมเมนต์ว่า “เห็นบ่อย โลกอีกใบของเฮียแสตมป์“ นิวจึงตามสืบว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร
20- เมื่อนิวสงสัย แสตมป์จึงบอกแจมว่าต่อไปไม่ต้องมาหน้างานแล้ว ให้ทำผ่านออนไลน์แทน แล้วแสตมป์ยังย้อนกลับไปคอมเมนต์ใต้คลิปต้นเรื่องว่า “คนนี้ไม่ใช่แฟนผมนะครับ ภรรยาผมคือน้องนิว”
—————
🔴 การปะทะกันของ 2 ฝ่าย
:
21- ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 แจมยุติการทำงานในฐานะสไตลิสต์ของแสตมป์ ส่วนแสตมป์ถูกนิวคุมและยึดมือถือ ไม่ให้ใช้โซเชียลฯ ทั้งหมด
22- มิถุนายน 2566 แสตมป์ทักไปบอกป้องว่าเขาโดนนิวคุมเข้มและยึดโทรศัพท์มานาน 4 เดือนแล้ว เขาอึดอัดมาก เหมือนตกอยู่ในนรก อยากหนีไปไกล ๆ แต่ทำไม่ได้ เพราะไม่มีอะไรติดตัวเลย อีกทั้งนิวขู่ว่าถ้าเขาออกไปเธอจะฟ้องศาล แล้วแสตมป์ก็ฝากป้องไปบอกแจมว่า “คิดถึงมาก ทรมานมาก อยากคุยด้วยมาก ๆ”
23- แต่สุดท้ายแสตมป์ก็เลือกภรรยา หลายอย่างเขม็งเกลียวจนค่อย ๆ กลายเป็นความขัดแย้งของ 2 ฝ่าย คือแสตมป์-นิว VS แก๊ป-แจม เกิดการปะทะกันหลายครั้ง โดยแต่ละฝ่ายต่างก็มีมุมของตัวเอง เช่น
◾️ นิวโทรหาแม่ของแจมและส่งข้อความหาเพื่อน ๆ แจม ฝากบอกให้แจมเลิกยุ่งกับสามีของเธอ
…ในมุมของนิวคือ ในเมื่อห้ามเจ้าตัวไม่ได้ ก็ให้ครอบครัวและเพื่อนช่วยห้าม แต่ในมุมของแก๊ปมองว่า แสตมป์มาตามตื๊อแจมเอง แล้วทำไมนิวถึงมาวุ่นวายกับคนรอบตัวแจม
◾️ ทั้ง 2 ฝ่ายเผชิญหน้ากันที่คอนเสิร์ต ในมุมของแจมคือแค่เดินไปถามนิวดี ๆ ว่าทำไมต้องโทรหาแม่ แต่นิวตอบกลับหยาบคายว่า “มึงมายุ่งกับผัวกูทำไม” แจมโกรธจึงสวนกลับว่า “ก็ไปถามผัวมึงดูสิ”
…ในมุมของนิวนี่คือการคุกคาม แจมไม่ใช่สตาฟแต่มีป้ายห้อยคอ เดินเข้าออกหลังเวทีได้อย่างอิสระ และเข้ามาคุกคามเธอได้ถึงห้องพักศิลปิน
◾️ นิวไปฟอลโลว์ไอจีคนรอบตัวแจม โดยฟอลแล้วอัน ฟอลแล้วอัน สลับกันไป ทำให้แจมกับแก๊ปสงสัยว่านิวทำไปเพื่ออะไร
…ต่อมานิวมาฟอลไอจีแก๊ป แก๊ปซึ่งไม่พอใจอยู่เป็นทุนจึงแคปมาโพสต์และเขียนแคปชั่นว่า “อาการทางประสาทกำเริบ ?” โดยแก๊ปยอมรับว่าเคยเห็นแสตมป์พูดในแชตว่านิวเป็นประสาท จึงเลือกเอาคำนี้มาใช้
◾️ อีกครั้งที่คอนเสิร์ต แจมกับแก๊ปบอกว่าเดินผ่านนิวโดยบังเอิญ นิวตะโกนด่าว่า “เป็นอะไรมากมั้ยไอ้ here ทำไมมึงไม่พูดความจริงวะ“ แก๊ปจึงถ่ายคลิปไว้
…ในมุมของนิวกับแสตมป์คือ ทำไมมาบังเอิญที่หน้าห้องพักของเราอีกแล้ว เห็นได้ชัดว่าสองคนนี้ตั้งใจมายั่วยุให้โกรธ แล้วอัดคลิปสร้างสถานการณ์ว่านิวเป็นบ้า บางทีแก๊ปมายืนจ้องนิวอย่างอาฆาตมาดร้าย ส่วนแจมก็แกล้งนั่งร้องไห้ข้างนิวแล้วอัดคลิป บางครั้งไม่ได้มาเอง แต่ส่งคนมายืนหน้าเวที แล้วชูมือถือที่หน้าจอเป็นรูปคู่กรณี
◾️ แก๊ปพาแจมไปพบผู้ใหญ่ในวงการเพลง และเล่าให้คนในวงการฟังเรื่องนิว ในมุมของพวกเขาคือต้องการคำปรึกษาจากผู้ใหญ่และเพื่อน ๆ
…แต่ในมุมของแสตมป์ นี่คือการปล่อยข่าวสู่วงการเพลงว่านิวเป็นบ้า และมีหลายคนหลงเชื่อ เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของนิวในวงการนี้ เธอจะทำงานในวงการต่อก็คอนเน็คกับใครไม่ได้ เพราะกลายเป็นคนบ้าที่ตามราวีคนอื่น
—————
🔴 พึ่งศาล
:
24- ในที่สุดเมื่อปลายปี 2566 แสตมป์กับนิวก็ตัดสินใจฟ้องแก๊ปกับแจมใน 3 คดีต่อไปนี้
◾️ คดีที่ 1 แสตมป์ฟ้องแพ่งแก๊ปกับแจมข้อหาละเมิด เรียกค่าเสียหาย 2 ล้านบาท
◾️ คดีที่ 2 แสตมป์ฟ้องอาญาแก๊ปกับแจม ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท, ก่อให้ได้รับความอับอายหรือความเดือดร้อนรำคาญ
◾️ คดีที่ 3 นิวฟ้องแจม (ฟ้องชู้) เรียกค่าทดแทน 10 ล้านบาท โดยนิวแสดงหลักฐานเป็นเอกสาร 500 หน้า เพื่อชี้ให้ศาลเห็นว่าแจมเป็นชู้กับสามีของเธอจริง เช่น ไปไหนมาไหนด้วยกันอย่างเปิดเผย, แสดงตนเหมือนเป็นภรรยาอีกคน, ญาติผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงรับรู้, เข้าโรงแรมด้วยกันหลายครั้ง ฯลฯ ทำให้ครอบครัวของเธอมีปัญหากันถึงขั้นสามีขอเลิก
25- แสตมป์ขอให้ป้องช่วยมาเป็นพยานคดีฟ้องชู้ให้กับนิว และเขาถือโอกาสนี้สารภาพกับป้องว่า นิวไม่ได้ผิดอะไรเลย ตอนนั้นเขากำลังหลงแจม จึงโกหกว่านิวไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ ที่จริงนิวให้เงินแม่เขาใช้ปีละเกือบล้าน ให้เงินเขาพกเยอะมาก แต่เขาเอาไปเลี้ยงแจมหมด และให้เขากลับบ้านได้ตลอดเวลา แต่เขากลับเอาเวลานั้นหนีไปเที่ยวกับแจม
—————
🔴 ขู่ฟ้อง ม.112
:
26- แต่ต่อมาแสตมป์ถอนฟ้องคดีที่ 1 และ 2 แสตมป์บอกว่าเขาถูกพ่อของแจมและทนายความข่มขู่ว่าจะฟ้องมาตรา 112 ถ้าไม่ถอนฟ้อง โดยพวกเขาอ้างว่ามีแชตที่แสตมป์คุยกับแจม และมีข้อความที่หมิ่นเหม่ต่อ 112 ทำให้เขารู้สึกกลัวและยอมถอนฟ้อง
27- ส่วนคดีที่ 3 นิวกับแจมได้ทำสัญญาประนีประนอมต่อหน้าศาล  โดยแจมยอมจ่ายเงินให้นิว 1 ล้านบาท ขอผ่อนชำระเดือนละ 20,000 บาท
28- สำหรับคดีที่ 3 นี้ ในมุมของแสตมป์เขามองว่ายังไม่ทันได้สืบพยานแจมก็ชิงรับสารภาพแล้ว เหมือนไม่อยากให้แก๊ปได้มาเห็นพยานหลักฐานของนิว แต่ในมุมของแจมเธอมองว่ายอมจ่ายเพื่อตัดปัญหา
29- ส่วนในมุมของแก๊ป เขาเชื่อมั่นว่าแจมไม่ได้เป็นชู้กับแสตมป์อย่างแน่นอน การยอมจ่ายเงินให้จบ ๆ ไม่ได้แปลว่าแจมเป็นชู้หรือแพ้คดี
—————
🔴 ยังโดนคุกคาม
:
30- กุมภาพันธ์ 2567 แสตมป์โพสต์ครบรอบ 18 ปี ขอบคุณที่นิวอยู่เคียงข้าง ไม่เคยปล่อยมือ แม้ในวันที่เขาหลงทางกลายเป็นคนที่เลวร้าย นิวก็ยังใช้ความรักความอดทนมหาศาล ค่อย ๆ ดึงเขากลับมาสู่ทางที่ถูกที่ควร และขอโทษที่ทำให้นิวมีความทรงจำที่เลวร้าย
31- ดูเหมือนเรื่องควรจะจบแล้ว แต่ออกจากศาลได้เพียง 2 อาทิตย์ แสตมป์ก็บอกว่าเขาโดนแก๊งเพื่อนของแจม-แก๊ปเอารูปคู่ของเขากับนิวไปแขวนด่าต่าง ๆ นานาอีก เช่น อุบาทว์ ผัวเมียโรคจิต บ้านพิกลคนประหลาด ว่าง ๆ จูงมือกันไปหาจิตแพทย์บ้างนะ ฯลฯ 
32- แสตมป์ติดต่อไปที่ Tilly Birds เพื่อบอกว่าเขายังโดนคุกคามอยู่ แต่ในมุมของวงมองว่าเป็นความขัดแย้งส่วนตัว เป็นคดีชู้สาว และทั้งสองฝ่ายเล่าเรื่องไม่ตรงกัน วงจึงไม่อยากยุ่งเกี่ยว ขอให้ไปตกลงกันเอง แต่ในมุมของแสตมป์มองว่าป้ายห้อยคอสตาฟของวงนั้น เปรียบเสมือนตั๋วฟรีให้ 2 คนนี้มาคุกคามนิวซ้ำ ๆ
33- วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 แสตมป์โพสต์ลอย ๆ ว่า “วงดนตรีวงหนึ่ง SUPPORT โจร ไม่มีคุณธรรม”
—————
🔴 เรื่องเล่า (ที่ไม่ครบ) บนเวทีคอนเสิร์ต
:
34- มกราคม 2568 แสตมป์ขึ้นเวทีคอนเสิร์ต และเล่าให้แฟน ๆ ฟังว่าที่หายไป 1 ปี เพราะพาภรรยาไปขึ้นศาลมา เนื่องจากถูกบุคคลหนึ่งคุกคามมานาน 10 ปี ทั้งที่ไม่รู้จักกัน สร้างสถานการณ์ใส่ร้ายว่าภรรยาของเขาเป็นบ้า ตอนนี้เขาชนะคดีแล้วแต่ยังถูกคุกคามอยู่ แถมยังโดนขู่ยัด 112 …ด้วยภาพลักษณ์ ‘สามีที่รักภรรยามาก’ ทำให้คนแห่ให้กำลังใจล้นหลาม
35- แสตมป์เล่าเรื่องทุกอย่าง (ในมุมของเขา) โดยไม่ระบุชื่อใคร แต่…เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องชู้สาว และไม่ได้บอกว่าคนที่มีปัญหากับภรรยาของเขา ก็คือคนที่เขานอกใจด้วย แต่กลับสื่อสารให้คนฟังเข้าใจว่าคนที่คุกคามนิวเป็นซาแซง
36- การให้ข้อมูลไม่ครบ ทำให้มีหลายคน ทั้งนักดนตรี ศิลปิน และวงดนตรีได้รับผลกระทบ บางคนเจอทัวร์ลงแบบงง ๆ บางคนถูกกล่าวหาว่าปกป้องผู้กระทำ เมื่อศิลปินบางคนบอกว่าเรื่องนี้มีตื้นลึกหนาบางมากกว่านี้ที่ยังพูดไม่หมด ปรากฏว่าเจอทัวร์ลง
37- แก๊ปเอาคดีทั้งหมดที่แสตมป์ฟ้องเขากับแจมมาโพสต์ โดยเฉพาะคดีที่ 3 (ฟ้องชู้) ซึ่งลงคำฟ้องอย่างละเอียด ถึงขั้นระบุชื่อโรงแรม 4-5 แห่งที่แสตมป์กับแจมไปร่วมหลับนอนกันเป็นประจำ
38- ต่อมาป้องแคปแชตที่คุยกับแสตมป์มาเปิดเผยว่าต้นเหตุที่แท้จริงคือแสตมป์นอกใจภรรยาไปเป็นชู้กับแฟนคลับ ที่ตนต้องออกมาเปิดเผยเพราะมีหลายคนได้รับผลกระทบ แม้จะโดนสังคมตั้งคำถามว่า ‘เพื่อนแบบใดห์’ ก็ตาม
—————
🔴 คำขอโทษจากแสตมป์
:
39- ในที่สุดแสตมป์ก็ออกมาขอโทษทุกคนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งเพื่อนร่วมวงการ แฟนเพลง ภรรยา รวมทั้งคู่กรณี
40- แสตมป์ยอมรับว่าเขาเคยหลงแจมมาก จนนอกใจนิว และพิมพ์ว่านิวเป็นบ้าจริง ตอนนี้เขากับนิวปรับความเข้าใจกันแล้ว เขามีส่วนทำให้นิวถูกเข้าใจผิด ต่อไปจึงขอเอาตัวเข้าแลกเพื่อเคลียร์ชื่อเสียงให้นิว นิวถูกกระทำจากเขากับแจมมามากแล้ว
41- แก๊ปไปออกรายการโหนกระแส พูดแทนแจมที่ไม่สามารถพูดอะไรได้มากนักเนื่องจากทำสัญญาไว้กับศาลว่าจะไม่พูดพาดพิงกันอีก ทั้งแก๊ปและแจมต่างยืนยันหนักแน่นว่าแจมไม่เคยเป็นชู้กับแสตมป์ แต่แสตมป์คิดไปเองว่าแจมมีใจ
42- เมื่อทราบรายละเอียดจากโหนกระแสว่ามีการนำคดีการเมืองมาข่มขู่จริง Tilly Birds ได้พูดคุยเพื่อขอยุติการทำงานในวงของแก๊ป ซึ่งแก๊ปก็ขอแสดงความรับผิดชอบด้วยลาออก เพื่อไม่ให้วงได้รับผลกระทบ
43- ศิลปินหลายคน เช่น เติร์ด Tilly Birds, โอม ค็อกเทล, จ๋าย ไททศมิตร ออกมา Call out ประกาศจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการเอาคดีการเมืองมาปิดปาก ทำให้ไม่สามารถต่อสู้ในคดีอื่นได้อย่างยุติธรรม
Leave a Comment